มีการรายงานข่าวมาว่าเกมส์แข่งรถยนต์ชื่อดังของ PlayStation 5 / PS5 อย่าง Gran Turismo 7 ได้มีการเลื่อนออกไปยังปี 2020 แล้ว เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยการรายงานดังกล่าวมาจากทาง GQ ที่ได้ทำการสัมภาษณ์ Jim Ryan, CEO ของ PlayStation ซึ่งในส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้มีการพูดถึง Gran Turismo 7 ที่ถือว่าเป็นเกมส์เฉพาะของตัวเครื่อง PlayStation 5 / PS5 ไว้ว่าตัวเกมส์นั้นจะมีการเลื่อนออกไปเนื่องด้วยการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัส Covid-19
ซึ่งการแพร่ระบาดนี้ ได้ไปกระทบต่อแผนงานพัฒนาของสตูดิโอผู้พัฒนา Polyphony Digital
โดย Ryan ได้กล่าวไว้ว่า “GT7 นั้นได้รับผลกระทบจากความท้าทายในการผลิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของวันปล่อยตัวเกมสืจากปี 2021 เป็น 2022 แทน”
“ด้วยการแพร่ระบาดที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ มันถือว่าสถานการณ์ที่มีความกดดัน และการเปลี่ยนแปลงสูง และบางภาคส่วนที่สำคัญของการพัฒนาเกมส์นั้นได้ถูกทำให้ช้าลงไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยพวกเราจะแบ่งปันในข้อมูลของวันปล่อยตัวเกมส์ให้ได้รับทราบ เมื่อมันพร้อมแล้ว”
โดย GT7 มีแผนในการวางจำหน่ายภายในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเกมส์ชูโรงของตัวเครื่อง PlayStation 5 / PS5 เคียงคู่กับ Ratchet & Clank: Rift Apart และ Horizon Forbidden West
ซีรีส์เกมส์ Gran Turismo สามารถทำยอดขายไปได้ถึง 80 ล้านชุด ในปี 2018 และเกมส์ล่าสุดของซีรีส์ Gran Turismo Sport ที่ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2017 บนเครื่องเล่น PS4 / PlayStation 4 นอกจากนี้แล้วนั้น Ryan ยังได้มีการแย้มถึง VR headset อันใหม่สำหรับเครื่อง PS5 อีกด้วย
ฟีเจอร์โควิด-19 และ #ThereIsHelp ช่วยสร้างความปลอดภัยและให้ข่าวสารที่น่าเชื่อถือบนทวิตเตอร์
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกทำให้ผู้คนหันมาใช้ทวิตเตอร์ในการพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและค้นหาข้อมูลล่าสุดด้านสาธารณสุขที่น่าเชื่อถือ
เดือนมีนาคม 2020 ทวิตเตอร์ได้ออกนโยบายการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 เพื่อสร้างคุณภาพของบทสนทนาสาธารณะ หลังจากนั้นทีมงานของทวิตเตอร์ได้ดำเนินการบังคับใช้นโยบายนี้กับผู้ใช้งานจำนวน 4,658 บัญชีที่ละเมิดนโยบาย นอกจากนี้ ระบบอัตโนมัติของทวิตเตอร์ยังพบว่ามีผู้ใช้งานราว 4.5 ล้านบัญชี ที่มีพฤติกรรมการบิดเบือนข้อมูลและเป็นข้อความสแปม
อีกหนึ่งผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวิตเตอร์อยากจะสร้างการตระหนักรู้ในสังคมก็คือความรุนแรงที่เกิดจากเพศสภาพและความรุนแรงในครอบครัว (shadow pandemic) ที่พุ่งสูงขึ้นมาก ทวิตเตอร์จึงให้การสนับสนุนพันธมิตรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกให้สามารถลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ได้ฟรี และยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 24 องค์กรเพื่อขยายบริการการแจ้งเตือน #ThereIsHelp ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
Spotify HiFi ส่งมอบ คุณภาพเสียงแบบ Lossless
ด้วยการนำเสนอคุณภาพเสียงแบบ HiFi ทำให้ Spotify ได้ร่วมก๊วนกับ Tidal และ Amazon Music ในการส่งมอบเสียงเพลงคุณภาพประดุจ CD และรูปแบบเสียงแบบ Lossless สำหรับผู้ใช้งานบริการแบบ Premium
เร็ว ๆ นี้ ทาง Spotify ได้เปิดแผนการสมัครสมาชิกแบบ HiFi ที่จะให้เราได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่ต้องการได้โดยไม่เสียคุณภาพของเสียงเพลงแม้แต่น้อย โดยจะเปิดให้บริการในบางส่วนผู้ใช้งานก่อน ซึ่งเริ่มที่ผู้ใช้งานบริการแบบ Premium ที่ทำการจ่ายค่าบริการ $9.99 (300.10 บาท) ต่อเดือนนั้นจะได้รับโอกาสในการอัปเกรดใช้งานในรูปแบบดังกล่าว
ในช่วงของวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทวิตเตอร์ได้ทำงานร่วมกับสมาคมป้องกันการฆ่าตัวตายนานาชาติ (International Association for Suicide Prevention) ด้วยการขยายความร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกกว่า 20 องค์กร และยังร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพจิตในพื้นที่และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอีก 30 หน่วยงานเพื่อกระจายการป้องกันการฆ่าตัวตาย #SuicidePrevention ออกไปในวงกว้างและเพื่อขยายบริการการแจ้งเตือน #ThereIsHelp ที่ช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตัวเอง
เมื่อมีการค้นหาคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดจากเพศสภาพหรือ การฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายตัวเองบนทวิตเตอร์ ผู้ใช้งานจะได้รับข้อความแจ้งเตือนที่เป็นข้อมูลในการติดต่อและสายด่วนของหน่วยงานในพื้นที่และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้พวกเขากล้าขอความช่วยเหลือ
เดือนธันวาคม 2020 ทวิตเตอร์ได้เพิ่มเติม นโยบายการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งหมายรวมถึงทวีตที่เผยแพร่ข้อความซึ่งมีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19
ตลอดปี 2020 ทวิตเตอร์ได้มีการอัปเดตกฎระเบียบเกี่ยวกับพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเกลียดชัง อาทิ ห้ามใช้ภาษาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ ความทุพพลภาพ อาการของโรค เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ สัญชาติเดิม รวมถึงการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการบำบัดเพศวิถี (conversion therapy) กับบุคคลหรือในชุมชน LGBTQ+
เราได้ขยายนโยบายให้มีความครอบคลุมเพื่อปกป้องบทสนทนาของพลเมืองบนทวิตเตอร์ เพราะเป้าหมายของทวิตเตอร์คือการปกป้องเนื้อหาที่อาจทำให้การลงคะแนนเสียงถูกระงับและเพื่อหยุดการแพร่กระจายข้อมูลเท็จที่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งหรือกระบวนการของพลเมืองอื่นๆ
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น