เตรียมไล่ออก 9 ตำรวจ รีดเงินคนจีน แลกปล่อยตัว ค้นกงสุลนาอูรู

เตรียมไล่ออก 9 ตำรวจ รีดเงินคนจีน แลกปล่อยตัว ค้นกงสุลนาอูรู

บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เผยกรณี ค้นกงสุลนาอูรู ที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและ DSI รับเงินแลกปล่อยตัวผู้ต้องหา ว่าเตรียมไล่ตำรวจ 9 นาย พลตำรวจตรี ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีที่ ตำรวจในสังกัด 191 ที่ไปร่วม กับ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI เข้าค้นบ้านกงสุลนาอูรู และมีการกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินชาวจีน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาดังที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

จากการตรวจสอบพบว่า มีตำรวจ 9 นายที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 

ตอนนี้ทุกนายอยู่ระหว่างการถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งทั้ง 9 นาย ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดตนเอง และ มีคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ บก.สปพ โดยกรอบระยะเวลาในการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงแล้วเสร็จภายใน 30 วัน ทั้งนี้จัดการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทั้ง 9 นายให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนในการเรียกรับเงิน

ส่วนเรื่องการเข้าร่วมการตรวจค้นนั้น ทางกงสุลใหญ่นาอูรู ได้มีหนังสือมาถึง DSI เพื่อขอให้เข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวจากนั้น DSI จึงได้ประสานมาที่ 191 จึงได้เข้าไปปฏิบัติงานพร้อมยืนยันว่า 191 ไม่ได้เป็นต้นเรื่องในการเข้าไปตรวจค้นเพียงแต่ได้รับการประสานจากทาง DSI เพื่อเข้าไปร่วมปฏิบัติหน้าที่ สำหรับความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ที่เข้าไปร่วมปฏิบัติการในการตรวจค้นบ้านกงสุลนาอู หากพบว่าผิดจริงจะต้องมีโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาจนถึงขั้นไล่ออก ผู้การ 191 ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า

ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึง หน่วยงานตำรวจ 191 ได้มีการกำชับมาโดยตลอด ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ แต่ก็อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ว่า อยากให้มองในมุมกว้างว่า ในหลายเรื่องทางตำรวจเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ทั้งการระงับเหตุเรื่องราวต่างๆ ซึ่งก็คงมีบ้างที่ตำรวจบางส่วนอาจจะเดินออกนอกแถวและหากเราพบก็ต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อให้องค์กรสามารถเป็นที่ยอมรับในสังคมได้ส่วนที่ไม่ดีก็ต้องดำเนินการกำจัดออกไป

นอกจากจะมีตำแหน่งงานจำนวนมากจากธุรกิจในไทย อาเซียน และทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร สปา บริษัทนำเที่ยว ฯลฯ ที่มาเปิดบูธรับสมัครในงานแล้ว ยังมีเวิร์กช็อปน่าสนใจมากมาย อาทิ Secret to Working Abroad เผยเคล็ดลับการไปทำงานต่างประเทศ, Take Your CV to the Next Level ทำอย่างไรในการยกระดับ CV ให้น่าสนใจ รวมทั้งมี Talk จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการมาร่วมแสดงทัศนะและแบ่งปันประสบการณ์ในหัวข้อ Bridging Generation: The Future of Hospitality Talent Management และ Global Hospitality Experiences: Careers Without Borders เพื่อติดอาวุธความรู้ให้แก่ผู้รับฟัง และพิเศษสุดสำหรับนักศึกษาที่อยากไปฝึกงานต่างประเทศ ในงานนี้ก็จะมีบริษัทที่ดำเนินงานด้านการส่งนักศึกษาไป internship ยังต่างประเทศหลายแห่งมาเปิดบูธด้วย โดยผู้ที่กำลังมองหางานสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

งาน ASEAN Hospitality Talent Fair 2023 จะจัดขึ้นในวันที่ 30-31 มีนาคม 2566 ณ ห้องศรีนครินทร์ฮอลล์ วิทยาลัยดุสิตธานี ถ.ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ (ข้างซีคอนสแควร์) ผู้ประกอบการที่สนใจออกบูธและผู้กำลังมองหางานสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ htf@dtc.ac.th และ โทร. 02-361-7811-3 ต่อ 265, 272

ยอดเซอร์วิสชาร์จ รร.ดังภูเก็ต พนักงานรับอื้อ 8 หมื่น อันดับ 1 ในไทย

งานโรงแรม คนโรงแรม เห็นแล้วหายเหนื่อย เปิดตัวเลขโรงแรมที่มียอดเซอร์วิสชาร์จสูงสุดในไทย JW Marriott ภูเก็ต เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 1 ที่ 7.9 หมื่นบาทต่อคน เชื่อว่าทุกคนน่าจะเข้าใจความหมายของ Service charge (เซอร์วิสชาร์จ) คืออะไรกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่หากถามว่าแล้วในบ้านเรา ประเทศไทย ยอดเซอร์วิสชาร์จในช่วงที่ผ่านมาที่มีตัวแปรด้ายรายได้อย่างเจ้าไวรัสโควงิด-19 มผสมโรงด้วยนั้น โรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวย่านไหนโกยรายได้จาก ค่าบริการที่ผู้ประกอบการคิดเพิ่มจากผู้บริโภคได้มากที่สุด

สำหรับข้อสงสัยข้างบน คำตอบคือ โรงแรม JW Marriott ภูเก็ต คืออันดับ 1 โรงแรมที่มียอดเซอร์วิสชาร์จในตอนนี้มากที่สุดที่ 79,980.80 บาทต่อคน

ทั้งนี้ “เซอร์วิสชาร์จ” คือ เงินที่พนักงานโรงแรมจะได้เพิ่มจากเงินเดือนทุกเดือน โดยจะคิดจากกำไรที่โรงแรมได้ในรอบเดือน ซึ่งกรณีของยอดตัวเลขเซอร์วิสชาร์จของทางเจดับบลิวแมริออตภูเก็ตนั้น ชาวเน็ตจำนวนมากที่ทราบข่าวเผยแพร่นี้ทางสื่อโซเชียลต่างก็พากันเข้ามาแสดงความยินดีกับพนักงานและผู้ประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เนื่องจากในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวต้องประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสจนจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพักยังสถานบริการด้านที่พักต้องเจอกับสภาะซบเซา บางแห่งขาดทุนจนต้องประกาศพักหรือขายทอดกิจการกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เมื่อมีรายงานข่าวเกี่ยวกับตัวเลขรายได้ในเชิงบวก หลายคนจึงอดไม่ได้ที่่จะต้องเข้ามารัวคอมเมนต์แสดงความยินดีด้วยอย่างเปิดเผยและจริงใจในความสำเร็จหนนี้นั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก www.marriott.com เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับ เจดับบลิว แมริออท (JW Marriott) นับเป็นแบรนหนึ่งในเครือของแมริออท (Marriott) เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งโดย เจ. วิลลาร์ด แมริออท (John Willard Marriott) มีต้นกำเนิดมาจากกรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐ

แมริออท ถือเป็นเครือโรงแรมที่ใหญ่เชนหนึ่งในโลก มีโรงแรมในสังกัดมากกวา่ 4,000 แห่ง เกือบทั้งหมดใช้แบรนด์ Marriott ทำตลาด ส่วนแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเครือ อาทิ Courtyard ,Renaissance, Residence Inn, Ritz-Carlton เป็นต้น

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า ไฮโลออนไลน์