รีวิว Xiaomi Smart Glasses คอนเซ็ปต์แว่นตาล้ำยุค พร้อมแปลภาษาเรียลไทม์

รีวิว Xiaomi Smart Glasses คอนเซ็ปต์แว่นตาล้ำยุค พร้อมแปลภาษาเรียลไทม์

รีวิว Xiaomi Smart Glasses แว่นตาล้ำยุค แปลภาษาเรียลไทม์ เป็นมากกว่าอุปกรณ์สวมใส่ ที่ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนเครื่องรอง พร้อมฟังก์ชันแปลภาษาแบบเรียลไทม์ แสดงผลแบบ MicroLED display เตรียมตีตลาดคู่กับแว่น Facebook’s Ray-Bans หากนำมาวางขายจริง

สงครามตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว 

หลังจากที่ทางเฟสบุ๊กเผยภาพพร้อมรายละเอียด แว่นตา Facebook’s Ray-Bans (Ray-Ban Stories) เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่วนทางด้านแบรนด์ Xiaomi ก็ไม่น้อยหน้า ส่งสารท้ารบกระหนาบทันที ด้วยแว่นตาอัจฉริยะ Xiaomi Smart Glasses ซึ่งไม่ได้มีดีแค่ถ่ายรูปกล้องชัดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี หน้าจอแสดงผล รับส่งการแจ้งเตือนจากข้อความ, การโทรสนทนา, ฟีเจอร์การนำทาง, โหมดถ่ายภาพ และไฮไลท์เด็ดอย่างการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ซึ่งเจ้าแว่นตารุ่นนี้จะมีดีอย่างไรบ้าง เตรียมส่อง รีวิว Xiaomi Smart Glasses ว่ามีฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์แค่ไหนกัน  

รีวิว Xiaomi Smart Glasses ดีไซน์โลกอนาคต รูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยว มีความล้ำสมัยด้วยวัสดุสีดำแบบผิวด้าน พร้อมกับเทคโนโลยีจอแสดงผล OLEDs ระดับความละเอียด MicroLEDs พิกเซล ที่มีความชัดสูงและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น กับประสิทธิภาพในการเร่งหน้าจอให้สว่าง และมืดแบบชัดเจน เนื่องด้วยตัว MicroLEDs มีคุณภาพความชัดมาก และอายุการใช้งานที่ยาวนาน บนโครงสร้างวัสดุเรียบง่าย จึงเปลี่ยนให้ Xiaomi Smart Glasses เป็นแว่นตาที่มีหน้าจอแสดงผลไซซ์เล็กกะทัดรัด พร้อมผสานภาพบนหน้าจอได้อย่างลงตัว โดยมีชิปของหน้าจอวัดได้เพียง 2.4 x 2.02 มม. สามารถเห็นได้ผ่านกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งมีขนาดเล็กพอ ๆ กับเมล็ดข้าวเลยทีเดียว และมีช่องพิกเซลแต่ละช่องไซซ์จิ๋วแค่ 4 ไมโครเมตร (4μm) เท่านั้น ช่วยให้ติดตั้งหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้กรอบแว่นตาขนาดเล็ก

และสามารถปรับใช้เป็นโหมด Monochrome ซึ่งทาง Xiaomi ได้เคลมไว้ว่าเร่งอัตราความสว่างได้มากสูงสุด 2,000,000 nits เรียกว่าเป็นความสว่างที่แรงแซงทะลุสมาร์ทโฟนไปหลายขุม เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านเราเลยจริง ๆ   

แถมยังมั่นใจได้เรื่องคุณภาพการมอง เพราะได้นำเทคโนโลยี Waveguide หรือท่อส่งนำคลื่นแสง ผ่านโครงสร้างแบบตะแกรง ซึ่งจะเป็นการหักเหลำแสงแบบพิเศษ ให้เข้าสู่ดวงตาของเราได้อย่างดีเยี่ยม และปลอดภัยยิ่งขึ้น

Xiaomi Smart Glasses ได้รวบรวมชิ้นส่วนมากถึง 497 ชิ้น รวมทั้งเซ็นเซอร์ และโมดูลสำหรับการสื่อสารที่มีขนาดเล็กมาก เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ไม่ใช่แค่เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องรอง” ด้วยการนำเทคโนโลยีหลายอย่าง ย่อไซซ์แล้วบรรจุลงไปในแว่นตา ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการนำทาง, โหมดถ่ายภาพ, การส่งข้อความ การแจ้งเตือน

และที่เป็นจุดเด่นสำหรับแว่นตาอันนี้ก็คือ Real-Time Translations หรือการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การสนทนากับชาวต่างชาติ เป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่มีติดขัด พร้อมโชว์ข้อมูลสำคัญได้อย่างทันท่วงที โดยที่เราไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟน ออกมาจากกระเป๋ากางเกงให้เสียเวลา

ระบบนำทางที่เหมือนหลุดออกมา

จากหนังไซ-ไฟ  จากตัวอย่างคอนเซ็ปต์ที่เผยออกมา จะเห็นว่าระบบนำทางมีการแสดงผลที่เป็นแบบ 3 มิติ (ให้ลองนึกถึงการมองของ IRON MAN) ที่จะปรากฎข้อมูลมาให้ตรงหน้าแบบทันที ช่วยให้การเดินทางบนท้องถนน เป็นไปอย่างสะดวก และปลอดภัยมากขึ้น (เหมาะกับประเทศไทยมาก !!)

รีวิว กล้องถ่ายภาพ 5 MP ไม่น่าเชื่อว่าภายในโครงสร้างแว่นตาที่เล็กเพียงนี้ จะสามารถใส่อุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพ ด้วยกล้องความละเอียดสูงสุด 5 ล้านพิกเซล โดยกล้องจะวางตำแหน่งบริเวณขอบหน้าแว่นตา รองรับฟีเจอร์การถ่ายภาพทั่วไป และการแปลแบบเรียลไทม์ เหมาะที่จะนำไปใช้ระหว่างการท่องเที่ยว หรือเดินทางในต่างประเทศ, โดยกล้องจะแสดงไฟสถานะ (Indicator Light) ข้าง ๆ เพื่อให้เราและคนอื่น ๆ รู้ว่ากำลังเปิดโหมดถ่ายภาพอยู่ 

การโทรสนทนา Beamforming microphone สามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ รองรับไมโครโฟน และลำโพงแบบคู่ ที่ช่วยกรองเสียงภายนอกต่าง ๆ ทำให้คู่สนทนาพูดคุย และได้ยินแบบชัดแจ๋ว 

สำหรับใครที่เป็นสายชอบเที่ยวถ่าย Vlog หรือไลฟ์สดบ่อย ๆ และยังไม่เคยมีกล้อง Action Camera มาก่อน ก็แนะนำให้จัดรุ่นนี้ไปเลย เพราะจะได้ชิปตัวใหม่อย่าง GP2 มาให้ใช้ด้วย แต่สำหรับคนที่มี GoPro HERO 9 อยู่แล้วอาจมองว่าไม่ได้แตกต่างอะไรมากมาย จะมีก็แค่ชิปเซ็ต GP2, กล้อง 23 MP และกันสั่นต่าง ๆ ที่อัปเกรดขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้หวือหวาอะไร ส่วนตัวมองว่าหากอัปแบตฯ ให้สามารถใช้ได้นานกว่านี้ก็จะน่าสนใจมาก ๆ เลย

สหประชาชาติ (UN) ได้เรียกร้องให้มีการชะลอการใช้งานระบบ AI ไม่ให้กว้างขวาง จนกว่าจะมีข้อบังคับที่ดี และโปร่งใสกว่าในขณะนี้ เพื่อป้องกันอันตรายในหลายด้านจากใช้งาน เมื่อวานนี้ (15 ก.ย. 2564) – สหประชาชาติ (United Nations – UN) ได้ทำการเปิดเผยรายงานการวิเคราะห์ที่มีใจความสำคัญถึง การให้มีการชะลอการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent – AI) ไม่ให้กว้างขวางไปก่อน จนกว่าจะมีการบัญญัติ หรือกำหนดข้อบังคับ/กฎหมายที่ดี และมีความโปร่งใส่ในการใช้งานระบบดังกล่าวให้มากกว่านี้

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> pokdengkings.com